10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอยู่ในภาวะคีโตสิส

อย่างหนึ่งเลยที่ทำให้ อาหารคีโต แตกต่างจากการทานเพื่อลดน้ำหนักด้วยวิธีการอื่นก็คือ การที่ร่างกายของเราจะอยู่ในภาวะผิดปกติอย่างหนึ่ง หรือที่เรียกว่า ภาวะคีโตสิส คำว่าผิดปกติในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะครับ แต่หมายความว่าคนปกติที่ทานอาหารปกติจะไม่มีภาวะนี้นี่เอง อาหารคีโตปลอดภัย?

อ่านเพิ่มเติม
1. อาหารคีโตคืออะไร3. วิธีการทานแบบคีโต
2. ภาวะคีโตสิสคืออะไร4. ตรวจระดับคีโตนในปัสสาวะได้อย่างไร

เมื่อคุณทานอาหารคีโต ได้ซักระยะหนึ่งหรือประมาณ 3-5 วัน ร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าคีโตสิส (Ketosis) ภาวะนี้แสดงโดยปริมาณคีโตนในกระแสเลือดที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงการที่ร่างกายต้องผลิตคีโตนออกมาใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเกิดมาจากการที่เราทานอาหารทีมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ทำให้คาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการใช้ ซึ่งการทานเช่นนี้ยังส่งผลถึงการลดระดับของฮอร์โมนอินซูลิน รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการย่อยสลายไขมันอีกด้วย

10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอยู่ในภาวะคีโตสิส

1. กลิ่นปากเฉพาะ

ทานคีโต แล้วมีกลิ่นปาก

หลายๆคนที่ทานอาหารคีโต จนถึงขั้น คีโตอแด้ป แล้วหรือประมาณ 3-6 สัปดาห์หลังจากที่ทาน จะเริ่มสังเกตว่าตัวเองมีกลิ่นปากเฉพาะ

โดยบางคนจะอธิบายว่าเป็นกลิ่นหวาน ๆ เหมือนผลไม้ หรือบางคนก็จะมีกลิ่นคล้ายโลหะ หรือแม้กระทั่งอาการน้ำลายหวานก็มีส่วน โดยสาเหตุของกลิ่นปากนี้ก็มาจากอซิโตน Acetone (แปลงมาจาก Acetoacetate) ซึ่งเป็นคีโตนรูปแบบหนึ่งที่ถูกกำจัดออกมาทางปัสสาวะและลมหายใจทางปาก

2. น้ำหนักลด

อาหารคีโตรวมถึงอาหารโลว์คาร์บ หรือการทานคาร์โบไฮเดรตในปริมารณต่ำ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยคุณลดน้ำหนัก

มีงานวิจัยมากมายหลายสิบเรื่อง ทั้งระยะสั้นและระยะยาวว่าอาหารคีโตสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ โดยในอาทิตย์แรกน้ำหนักของคุณจะลดเร็วมาก และเมื่อผ่านช่วงลดช่วงแรกไป น้ำหนักของคุณก็จะชงักช่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้นและเริ่มมาลดไขมันแทน เหมือนร่างกายกำลังหาสมดุลครับ แม้ไขมันลดแต่ต้องการน้ำเพิ่มผลก็เลยเป็นน้ำหนักนิ่ง (อ่าน เรื่องไข้คีโต เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้น) และเมื่อคุณผ่านช่วงไข้คีโตไปแล้วคราวนี้น้ำหนักของคุณก็จะกลับมาลดอีกโดยส่วนใหญ่จะมาจากไขมันในร่างกายแล้ว

3. ปริมาณคีโตนในกระแสเลือดเพิ่ม

สิ่งหนึ่งที่ทำให้อาหารคีโตแตกต่างจากอาหารประเภทอื่นก็คือ การลดลงของระดับน้ำตาลในกระแสเลือดและการเพิ่มปริมาณคีโตนในเลือด

เมื่อคุณทานอาหารคีโตได้ระยะหนึ่ง คุณจะเริ่มเผาผลาญไขมันและใช้คีโตนเป็นแหล่งพลังงานหลัก วิธีหนึ่งที่ตรวจได้แม่นยำที่สุดก็คือการตรวจหาค่าคีโตนในกระแสเลือด หรือค่าของ Beta-hydroxybutyrate (BHB) ซึ่งค่านี้อาจจะแตกต่างจากปริมาณ Acetoacetate ที่พบในปัสสาวะและลมหายใจ เพราะว่าค่าคีโตนในปัสสาวะเมื่อทานอาหารคีโตไปนานเข้าการตรวจก็จะเริ่มน้อยลง เพราะร่างกายผลิตและใช้คีโตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีเหลือให้กำจัดนั่นเอง

4. ปริมาณคีโตนในลมปาก และปัสสาวะ

คุณสามารถใช้เครื่องเป่าปากมาวัดระดับคีโตนรวมถึงแผ่นตรวจคีโตนในปัสสาวะมาได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ว่าทำไมเมื่อทานคีโตซักระยะกลิ่นปัสสาวะจะเปลี่ยนไปด้วย โดยจะมีกลิ่นแปลกประหลาดไปจากเดิม แต่อาการเหล่านี้จะเป็นแค่ช่วงระยะแรก เพราะเมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ช่วง คีโตอแด้ป แล้วร่างกายก็จะใช้คีโตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ปริมาณที่จำกัดลดลงด้วย

5. ลดความอยากอาหาร

มีหลายคนรายงานว่ามีภาวะไม่หิวเมื่อเริ่มทานอาหารคีโต สาเหตุที่แท้จริงยังไม่แน่ชัด สมมติฐานหนึ่งก็คือการลดความอยากอาหารเกิดมาจากปริมาณโปรตีน ผัก และไขมันที่เราทานมากขึ้น ซึ่งสามารถไปเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนความหิวได้ นอกจากนี้คีโตนเองยังส่งต่อสมองในการลดความหิวอีกด้วย

ต้องเข้าใจว่าปกติคีโตนจะผลิตเมื่อร่างกายอดอาหาร – ภาวะคีโตสิส – (โดยเฉพาะเจาะจงในส่วนของปริมาณคาร์โบไฮเดรต) ทำให้ในทางวิวัฒนาการเมื่อเกิดการขาดแคลนอาหาร มันเป็นไปได้ที่สมองจะลดความอยากอาหารลง เพราะอาหารหายากนั่นเอง

6. มีสมาธิและพลังงานมากขึ้น

หลายคนรายงานว่ามีภาวะสมองตื้อ (Brain Fog) คิดอะไรไม่ออกหรือแม้กระทั่งปวดหัวและป่วย ซึ่งนี่เป็นอาการปกติของไข้คีโต แต่เมื่อผ่านช่วงนี้ไปได้ อาการเหล่านี้จะหายไป ทำให้มีสมาธิและพลังงานมากขึ้น

เมื่อคุณเริ่มทานอาหารคีโต สมองส่วนใหญ่จะเริ่มเผาผลาญคีโตนให้เป็นพลังงานมากยิ่งขึ้นแทนที่น้ำตาลกลูโคส แต่มันจะใช้เวลาหลายวันจนถึงอาทิตย์กว่าที่ทุกอย่างจะเข้าที่ ทำให้ช่วงแรกคุณจะมีอาการสมาธิสั้น หงุดหงิด ได้

7. เหนื่อยง่าย

คีโตปลอดภัย

เมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนมาทานอาหารคีโต ปัญหาอย่างหนึ่งเลยก็คืออาการเหนื่อยง่ายไม่มีแรง นี่เป็นสาเหตุให้หลายคนเข้าใจว่าอาหารคีโตไม่เหมาะกับร่างกายตัวเอง ทำให้เลิกล้มกลางทาง มันใช้เวลา 7-30 วันกว่าที่ร่างกายจะเริ่มชินจากการที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตมาทั้งชีวิต แล้วเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากไขมันแทน

เพื่อลดความเหนื่อยล้า คุณควรจะทานเกลือแร่และน้ำให้มากตลอดเวลา 2000-4000 mg of Sodium, 1000 mg of potassium, 300 mg of magnesium ต่อวัน เป็นปริมาณที่แนะนำ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากพยายามทานอาหารตามที่แนะนำตามภาพด้านล่างครับ (คลิ้กที่ภาพเพื่อขยาย)

8. สมรรณะทางร่างกายลดลงชั่วคราว

สัญญาณว่าคุณอยู่ในคีโตสิส

เมื่อมีการเปลี่ยนการใช้พลังงานจากกลูโคสเป็นคีโตนแล้ว มันจะทำให้ร่างกายเหนื่อยง่ายในระยะแรก โดยเฉพาะในนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายเยอะ เมื่อออกกำลังกายช่วงแรกแค่แปปเดียวก็เหนื่อยแล้ว แต่อาการเหล่านี้จะเป็นแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นนะครับ เมื่อร่างกายเข้าสู่การเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพอาการต่างๆเหล่านี้ก็จะหายไป

9. ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้

อาหารคีโตนั้นเปลี่ยนหน้าตาอาหารที่คุณทานปกติไปโดยสิ้นเชิง การเพิ่มไขมันมากขึ้น การลดแป้ง สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร บางคนก็มีอาการท้องอืดถ่ายไม่ออก บางคนก็มีอาหารท้องเสีย ถ่ายเหลวตลอดเวลา อาการเหล่านี้จะเป็นแค่ช่วงแรกคือ 7-14 วันหลังจากเริ่มทาน การทานอาหารทีมีใยอาหารสูงโดยเฉพาะผักต่าง ๆ จะช่วยได้ แต่อาการเหล่านี้จะเป็นแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้นนะครับ

10. นอนไม่หลับ

มีหลายคนที่มีอาการนอนไม่หลับเมื่อเริ่มหันมาทานอาหารคีโต บางคนก็มีอาการตื่นระหว่างคืน ไม่ง่วงนอนบ้าง อาหารเหล่านี้จะดีขึ้นในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เริ่มทาน หลายคนที่ทานอาหารคีโตในระยะยาวกลับพบว่าการนอนหลับง่ายและตื่นมาไม่ง่วง (ประสบการณืตรงของผมเลย)

ปล. อาการทั้งสิบอย่างไม่จำเป็นต้องเกิดกับคุณพร้อมๆกันนะครับ รวมถึงไข้คีโตด้วยถ้าเกิดทุกอาการจริงคงไม่ต้องออกจากบ้านเลยมั้ง

ที่มา 10 Signs and Symptoms That You’re in Ketosis

Leave a Comment